เรียนรู้ภาษาเกาหลีฉบับเร่งด่วน – ตอนที่ 2

korea-0021

วันนี้ทัวร์เกาหลี จะพาคุณไปเรียนรู้บทสนทนาในการซื้อของ  หลายๆคนชอบมาก เพราะจะรู้สึกเหมือนสวรรค์มาช่วยให้ไม่ต้องอดตายแล้วนั่นเอง  รับรองไม่ยากจ้ะ

การซื้อของ

คำนาม + 있나요? (…อิซนาโย๊) = มี + คำนาม + ไหมคะ?

ใช้ในกรณีที่คุณเดินเข้าไปในร้านค้าแห่งหนึ่งในเกาหลี ซึ่งมีสินค้ามากมายไปหมด ถ้าหากคนขายทักทายเราก็ให้ส่งยิ้มแล้วถามกลับเลยค่ะ ไม่ว่าเขาจะทักมาว่ายังไง(ซึ่งบางทีเราอาจฟังไม่รู้เรื่อง) ประมาณว่า ขอโทษนะคะ มีเจ้านี่ไหมคะ? ไม่รู้ว่าแม่ค้าเกาหลีคนนั้นจะใจดีหรือเปล่า เพราะฉะนั้นถามแล้วก็ควรซื้อนะ

คำตอบที่ได้ก็จะเป็น 있어요. (อิซซอโย) มีค่ะ หรือ 아니오. (อานีโอ) ไม่มีค่ะ

얼마예요? (ออลมาเยโย๊?) = เท่าไหร่คะ?

พอได้พบกับสิ่งที่ต้องการแล้วเห็นว่ามันถูกใจก็ถามราคาเลย สินค้าแต่ละอย่างนั้นบางอย่างก็จะมีราคาติดอยู่บนสินค้า เป็นป้ายแปะอยู่ที่ชั้นวาง หรืออาจจะมีราคากำกับไว้ตรงไหนสักที่ แต่หากเราสนทนากับคนขายอยู่สามารถถามเขาได้เลยค่ะไม่ต้องมัวหาป้าย

เลขราคา(วอน) + 원이에요. (…วอนีเอโย) = เลขราคา(วอน) + วอน

คำตอบที่ได้จากแม่ค้าก็คือราคาของสิ่งนั้นๆ นั่นเอง สกุลเงินของเกาหลีคือเงินวอน () โดยจะบอกจำนวนหรือตัวเลขราคามาก่อนตามด้วยคำว่าวอน ดังนั้นควรแม่นตัวเลขไว้ก็ดีนะ

คำนาม + 주세요. (…จูเซโย) = ขอ + คำนาม + ค่ะ

ดูสินค้าหลากหลายอย่างแล้ว ถูกใจก็เยอะแยะ แต่ที่จะซื้อมีแค่อย่างเดียว ให้ประโยคนี้ในการเจาะจงไปยังของที่จะเอาค่ะ เช่น ดูทั้งเสื้อ กระโปรง หมวก ผ้าพันคอ ถุงเท้า กางเกง แต่จะเอาแค่เสื้อ ก็บอกไปเลยว่างั้นขอเสื้อหมายความว่าจะเอาแค่เสื้อนั่นเอง (ควรระบุด้วยว่าจะเอาเสื้อตัวไหน)

 

선물포장해주세요. (ซอนมุล โพจังแฮ จูเซโย) = ช่วยห่อของขวัญให้ด้วย

จ่ายเงินไปแล้วลูกค้าคือพระเจ้า หากของที่ซื้อไปจะนำไปฝากใครเป็นของขวัญก็บอกคนขายไปเลยว่าช่วยห่อให้ด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน บางร้านไม่คิดค่าห่อแล้วยังมีของแถมเป็นโบว์หรือสติ๊กเกอร์ติดมาให้อีก แต่บางร้านก็อาจจะคิดค่าห่อด้วย

คำศัพท์เพิ่มเติม

이거  (อีกอ) = นี่,อันนี้

저것 (ชอ-กอซ) = นั่น,อันนั้น

너무  (นอมู) = มาก,เกินไป

비싸요. (พีซาโย) = แพง

커요 (คอโย) = ใหญ่

작아요 (ชากาโย) = เล็กตัวอย่างบทสนทนาการซื้อขาย

A: 실례합니다.모자 있나요? (ชิล-รเยฮัมนีดา. โมจา อิซนาโย๊) = ขอโทษนะคะ มีหมวกไหมคะ?

B:  있어요. 이거예요. (อิซซอโย. อีกอเยโย) = มีค่ะ นี่ค่ะ

A:  이거너무커요.(อีกอ นอมู คอโย) =อันนี้ใหญ่เกินไปค่ะ

B:  그럼… (คือรอม…) = ถ้าอย่างนั้น

A:  저것모자주세요. (ชอ-กอซ โมจา จูเซโย) = ขอหมวกอันนั้น

B:  . (เน) = ค่ะ

A: 얼마예요? (อีกอ ออลมาเยโย๊?) = นี่เท่าไหร่คะ?

B: 10,000 원이에요. (มัน วอนี เอโย) = หมื่นวอน

A:  . 선물포장해주세요. (เน. ซอนมุล โพจังแฮ จูเซโย) = ค่ะ ช่วยห่อของขวัญให้ด้วยนะคะ

Seoul Tower

korea-01

หากเราเป็นคนที่ชอบดูหนังแดนกิมจิอยู่บ่อยๆ คงจะเคยเห็นสถานที่อยู่สถานที่หนึ่งที่มักจะถูกเลือกเป็นทำเลในการถ่ายฉากรักและบรรยากาศที่โรแมนติกอยู่เสมอๆ นั่นก็คือ Seoul Tower นั่นเองครับ ซึ่งเจ้า Seoul Tower นี้ต้องบอกครับว่าบรรดานักท่องเที่ยวที่ไปทัวร์เกาหลีล้วนแล้วแต่ใฝ่ฝันที่จะไปเยือนกันให้ได้โดยเฉพาะคนที่มาทัวร์เกาหลีแบบคู่รักเพราะเนื่องจากที่นี่เขามีสัญลักษณ์แห่งความรักที่จะผูกมัดคล้องใจกันและกันไว้ไม่ให้หลุดลอยหรือห่างกันไปด้วย “กุญแจ”

Seoul Tower หรือ N Seoul Tower นี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Namsan Seoul Tower อยู่บนภูเขานัมซาน ซึ่งเป็นภูเขาที่อยู่ใจกลางเมืองโซล ติดกับสวนนัมซาน ซึ่งเจ้า Seoul Tower นี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1969 และเปิดให้เข้าชมเมื่อปี 1980  ปัจจุบัน N Seoul Tower ถือว่าเป็น 1 ใน 18 หอคอยเมืองที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงจากฐานประมาณ 236.7 เมตร และสูง 479 เมตรจากพื้นดิน แยกเป็น 3 โซน คือ Tower, Plaza, และ Lobby

จุดเด่นของ N Seoul Tower ก็คือมันตั้งอยู่ในที่จุดชมวิว 360 องศา ดังนั้นเราจึงสามารถชมวิวได้แบบพาโนรามา ทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ทั่วกรุงโซลและจุดเด่นอีกอย่างก็คือ กิจกรรม กุญแจ คู่รัก ที่โด่งดังไปทั่วโลกด้วยความเชื่อที่ว่า คู่รักคู่ใดที่มีโอกาสมาทัวร์เกาหลีและได้มาคล้องกุญแจที่นี่ จะทำให้ความรักยืนยาว ซึ่งจุดคล้องกุญแจอยู่บริเวณฐานของ N Seoul Tower โดยเราจะเขียนข้อความหรือชื่อของคู่รักไว้บนแม่กุญแจ แล้วก็จะนำแม่กุญแจ ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ได้หมด ไปคล้องไว้กับรั้วเหล็ก ส่วนลูกกุญแจ ก็จะโยนทิ้งไปด้านล่างเสทอว่าไม่มีอะไรมาไขความรักของคนทั้งสองให้แยกออกจากกันได้